กัลฟ์ ร่วมมือ MEA ลงนาม MOU
ศึกษาและพัฒนาธุรกิจระบบไฟฟ้าและการบริหารจัดการพลังงาน ต่อยอดวิถีชีวิตเมืองมหานคร
บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF
ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจกับการไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA
เพื่อร่วมกันศึกษาความเป็นไปได้ในการร่วมกันพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้าและการบริหารจัดการพลังงาน
ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ระบบจัดการพลังงานในอาคาร (Building Energy Management
System: BEMS) ระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage System) ระบบทำความเย็นแบบรวมศูนย์ (District Cooling)
และการซื้อขายพลังงานไฟฟ้าผ่าน Energy Trading Platform
เพื่อตอบสนองต่อความต้องการผู้ใช้ไฟฟ้าทั้งภาคอุตสาหกรรมและครัวเรือนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และตอบโจทย์เทรนด์พลังงานแห่งอนาคต
นางพรทิพา ชินเวชกิจวานิชย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด
(มหาชน) กล่าวว่า ทางกัลฟ์รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับความไว้วางใจจาก MEA
ให้ร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ
ความร่วมมือในครั้งนี้สอดคล้องกับการเติบโตทางธุรกิจของกัลฟ์ที่มุ่งแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ อยู่เสมอ
โดยกัลฟ์มีความพร้อมทั้งเรื่องเทคโนโลยี เงินทุน และบุคลากร ตลอดจนซัพพลายเออร์ที่บริษัทฯ
มีพันธมิตรอยู่ในธุรกิจผลิตไฟฟ้า จึงพร้อมลงทุนและพัฒนานวัตกรรมพลังงานที่รองรับยุคแห่ง Energy Disruption
ซึ่งทางภาครัฐสนับสนุนการผลิตพลังงานสะอาด การอนุรักษ์พลังงาน และธุรกิจพลังงานระบบดิจิทัล
เพื่อยกระดับและส่งเสริมเสถียรภาพทางไฟฟ้าของประเทศให้สอดรับกับความเปลี่ยนแปลงทางพลังงานในอนาคต
นายวีรวัจน์ บัวทอง รองผู้ว่าการแผนและพัฒนาองค์กร การไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA เปิดเผยว่า MEA
ในฐานะหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย
มีความมุ่งมั่นในการส่งมอบพลังงานไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของภาคธุรกิจ
และประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้า ควบคู่กับการใส่ใจต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้พลังงานทดแทนตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อขับเคลื่อนวิถีชีวิตเมืองมหานคร
จึงได้ร่วมมือกับกัลฟ์ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในการให้บริการทางด้านพลังงาน
ในการศึกษาแนวทางในการพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้า เช่น ระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน
การบริหารจัดการพลังงาน ระบบกักเก็บพลังงาน ระบบทำความเย็นแบบรวมศูนย์ เป็นต้น
เพื่อสร้างโอกาสในการร่วมกันพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่จะเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศ
และที่สำคัญเป็นการสร้างประโยชน์ด้านการบริหารจัดการพลังงานของประเทศ
ถือเป็นก้าวสำคัญของการศึกษาแนวทางในการพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้าและการบริหารจัดการพลังงาน
ซึ่งจะนำไปสู่การยกระดับการให้บริการที่มีความทันสมัยด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล
เพื่อรองรับความต้องการใช้พลังงานทุกรูปแบบให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าในพื้นที่เมืองมหานครต่อไป